งวดนี้แว๊บๆงานไปพักผ่อนนอนเล่น แถวเมืองจันทบุรี
ลองค้นหาบ้านพักแนวๆโฮมสเตย์ เพราะอยากพักผ่อนจริงๆ อยากได้แบบเงียบๆ
เจออยู่หลายแห่ง ดังๆทั้งน้านนน ลองโทร.ไปก็เต็มมั่ง คุยไม่รู้เรื่องมั่ง
จนมาเจอ .....เจออยู่หลายแห่ง ดังๆทั้งน้านนน ลองโทร.ไปก็เต็มมั่ง คุยไม่รู้เรื่องมั่ง
โฮมสเตย์บ้านท่าขาหย่าง
ชื่อเค้าแปลกมาก และข้อมูลก็น้อยนิด รีวิวอะไรก็ไม่มี แต่เห็นรูปบรรยากาศเท่าที่พอหาเจอก็โอเคหละ
งานนี้ไปกัน7คน ทางทีมงานเค้าเน้นกินอาหารทะเล ก็เลยถูกใจที่นี่
ทางเข้าอาจจะลึกไปหน่อย(ก็เข้าทางเดียวกับเจ้าอื่นๆแหละ)
แต่เรามาพักผ่อนก็ค่อยๆไปใจเย็นๆ ไม่เห็นจะเหนื่อยอะไร
สภาพแวดล้อมดีมาก ปูก้ามดาบสีสวยที่นี่มีเพียบเต็มไปหมด แสดงถึงความสมบูรณ์และสะอาดจริงๆ
เดินทางนานหน่อยครับ GPS คำนวณเวลาไว้ว่าจะถึงประมาณ 12.30 แต่เอาจริงถึงบ่ายโมงกว่าเลย
เพราะทางเข้าช่วงท้ายๆเป็นลูกรังซะเยอะ แต่ก็ไม่โหดมาก เพียงแต่ทำเวลาไม่ได้ดังใจ
ทางเข้าก็ไม่ยากครับ วิ่งมาเส้นสุขุมวิท เลยตัวเมืองมา พอถึงทางแยกเข้าน้ำตกพลิ้ว ก็ชิดขวาเลย เลี้ยวขวาเข้าถนน 3149
จากนั้นก็ไปตามป้าย อโลฮา โฮมสเตย์ เจ้าดัง เพราะเค้าอยู่ติดๆกันครับ
พอมาถึง เจ้าของบ้านคือป้าอ่อนก็จัดชุดใหญ่ต้อนรับคณะผู้หิวโหยกันก่อนแบบนี้เลย
จัด เต็มกันไป แต่บอกก่อนนะครับ ป้าอ่อนแกย้ำนักย้ำหนาว่า ไม่ใช่อาหารไม่อั้นนะครับ แต่เต็มที่และเพียงพอ อิ่มอร่อยแน่นอน คณะผมสายแข็งกินหนักกันทุกคนยังเอาอยู่
กุ้งเป็นกุ้ง
หอยก็ต้องเป็นหอย สดมากเพราะป้าอ่อนเป็นเจ้าของฟาร์มหอยเองด้วย
ลวกมาได้พอเหมาะมาก
เมนูเด็ดที่เค้าภูมิใจเสนอมากคือน้ำพริกไข่ปูครับ พิสูจน์แล้ว เยี่ยมจริงๆ จนต้องขอไปกินต่อที่บ้านพัก (แกก็ตักให้ซะด้วยนะ)
มื้อแรกนี่เป็นปูม้าก่อน สดกันแบบสุดๆ
ปลากะพงทอด มันใหญ่เกินจานไปเยอะ เนื้อหวานไม่มีกลิ่นคาวกลิ่นโคลน เพราะมาจากกระชังในทะเล ไม่ได้เลี้ยงในบ่อ
ตัวชี้วัดสิ่งแวดล้อม ปูก้ามดาบสีสวย ต้อนรับเราเป็นหมื่นๆตัวเลย
ปลาตีนที่นี่ก็ตัวใหญ่และเยอะมาก
พอมาถึง เจ้าของบ้านคือป้าอ่อนก็จัดชุดใหญ่ต้อนรับคณะผู้หิวโหยกันก่อนแบบนี้เลย
จัด เต็มกันไป แต่บอกก่อนนะครับ ป้าอ่อนแกย้ำนักย้ำหนาว่า ไม่ใช่อาหารไม่อั้นนะครับ แต่เต็มที่และเพียงพอ อิ่มอร่อยแน่นอน คณะผมสายแข็งกินหนักกันทุกคนยังเอาอยู่
กุ้งเป็นกุ้ง
หอยก็ต้องเป็นหอย สดมากเพราะป้าอ่อนเป็นเจ้าของฟาร์มหอยเองด้วย
ลวกมาได้พอเหมาะมาก
เมนูเด็ดที่เค้าภูมิใจเสนอมากคือน้ำพริกไข่ปูครับ พิสูจน์แล้ว เยี่ยมจริงๆ จนต้องขอไปกินต่อที่บ้านพัก (แกก็ตักให้ซะด้วยนะ)
มื้อแรกนี่เป็นปูม้าก่อน สดกันแบบสุดๆ
ปลากะพงทอด มันใหญ่เกินจานไปเยอะ เนื้อหวานไม่มีกลิ่นคาวกลิ่นโคลน เพราะมาจากกระชังในทะเล ไม่ได้เลี้ยงในบ่อ
ตัวชี้วัดสิ่งแวดล้อม ปูก้ามดาบสีสวย ต้อนรับเราเป็นหมื่นๆตัวเลย
ปลาตีนที่นี่ก็ตัวใหญ่และเยอะมาก
ขาสีฟ้าสดใสตัดกับหาดโคลนดำ สวยงามมาก
น้องๆที่ไปด้วย เอาเบ็ดไปตกปลาเล่นหนุกๆ ก็พอได้ ที่ฮาคือได้เจ้าหมึกพอลนี่มาด้วย ตัวกำลังกินเลย
แต่สุดท้ายก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไปครับ
นั่งเล่น นอนเล่น กันไปจนเย็นๆก็ออกมาชมวิวรอบๆที่พัก แถวนี้มีแต่น้ำ
ฟ้างามยามเย็นครับ
หลากหลายอารมณ์กับ white balance
นี่เป็นบ้านหลังที่เราพัก หลังใหญ่มาก ห้องนอนติดแอร์ด้วย นอนได้ประมาณ7-8 คน
แต่ด้านนอกห้องมีบริเวณเยอะมาก มีระเบียงกว้าง แถมศาลากลางน้ำ
ที่สำคัญคือสะอาดมาก สะอาดกว่าพวกรีสอร์ทบางแห่งอีกครับ
มองจากระเบียงไปที่ศาลากลางน้ำ สรุปว่าตั้งวงเหล้ากันแล้วครับ
วิวสบายตากับวิถีชุมชนกลางน้ำ มองจากศาลากลางน้ำของเรา
และแล้วก็มาถึงมื้อเย็น ที่เป็นไฮไลท์ของทริป ที่ทุกคนมั่นหมายว่าต้องเพียบ
ป้าอ่อนตั้งโต๊ะรอไว้แล้วกับชุดใหญ่
มื้อนี้มีกุ้งแช่น้ำปลามา2จาน หอยนางรมสด แกงส้มปลาดุกทะเลด้วย
มื้อนี้เปลี่ยนเป็นปูเนื้อ ใหญ่จริงๆ เนื้อแน่นมาก
กุ้งผัดผงกะหรี่ น่ากินมาก แต่ผักน้อยไปหน่อย เจ้าบ้านเค้าบอกทีหลังว่าแถวนี้ผักหายาก มันปลูกไม่ได้ เพราะดินเค็มและไม่มีที่จะปลูก
สรุปว่ามื้อเย็นก็เพียบ แต่ว่าด้วยความที่ยังอิ่มจากมื้อกลางวัน ก็เลยกินไม่ไหว
ป้าอ่อนเลยให้ลูกน้องช่วยกัน ใส่ถาดยกมาให้เรากินต่อที่บ้านพัก
ที่นี่เค้าบริการน้ำแข็งฟรีตลอด น้ำดื่มด้วย กาแฟก็ฟรี
อาหารถ้าเหลือจากมื้อของเราก็เอามากินต่อได้ มีเด็กๆหรือคนที่ไม่กินนู่นนี่อะไร ก็บอกได้ แกเสริมให้ได้เท่าที่วัตถุดิบจะมี
โต๊ะผมขอไข่เจียวไป แกจัดไข่เจียวหอยนางรมจานใหญ่มาให้เลย ไม่ยอมคิดตังค์อีกตะหาก
กลับมาดูภายในบ้านกันน่อยภาพสลับไปๆมาๆมั่งนะครับ ถ่าย2กล้องแล้วลืมเรียงตามเวลา เลยงงเอง
ภายในบ้านกว้างขวางดีจัง ตรงนี้มีส่วนที่ทำอาหารเองได้ด้วย
มีถ้วยชาม จานช้อนบริการครบ แต่ควรจะช่วยเค้าล้างซักหน่อยนะผมว่า
ห้องโถงกลางบ้านนี่นอนได้หลายคนเลย
ห้องนอนครับ ที่นอน หมอน ผ้าห่ม สะอาดดี
บ้าน ..ยามน้ำลง
พอน้ำขึ้นก็แบบนี้
หลังที่เราพักนี่เป็นบ้านของญาตๆป้าอ่อน
แต่ของป้าอ่อนเองจะมี 4 หลังอยู่ติดกับห้องอาหาร อยู่ในทะเล ต้องเดินไปตามสะพานยาวๆแบบนี้
แต่วันที่เราไป ตรงนี้มีคนจองหมดแล้ว
ช่วงน้ำขึ้นสวยมาก ลมแรงเย็นสบาย แต่ไม่เหนียวตัวครับ
2หลัง ด้านซ้ายในภาพ จะเป็นหลังเล็กนอนได้ซัก 4คน 2หลังด้านนอกใหญ่หน่อย 6-7 คนสบาย
ที่สำคัญคือระเบียงกว้างมาก
สะพานปูนก็แข็งแรงนะครับ ไม่มีไหวยวบยาบให้หวาดเสียว
ปลายสะพานเป็นตัว T เหมาะสำหรับตกปลา หรือตั้งวงมาก
กระชังปลาเป็นอาชีพหลักของที่นี่
อาหารเช้า มีข้าวผัดกุ้งถาดใหญ่ และข้าวต้มปลาอินทรีสด+กุ้ง
ข้าวผัดอร่อยมาก ถ่ายไม่ทัน ข้าวต้มที่มีข้าวอยู่นิดหน่อย นอกนั้นเป็นกุ้ง+ปลา สงสัยข้าวจะแพง
ที่วัดข้างๆหมู่บ้านมีพระอยู่รูปเดียว ก็นิมนต์มารับบาตรกัน
โดยให้ป้าอ่อนจัดชุดใส่บาตรเป็นอาหารแห้งให้ ชุดละ50บาท
ใครจะซื้อปูกลับบ้าน บอกป้าได้เลย แกจะไปสั่งให้ชาวบ้านเอามาให้เลือกกันแบบนี้
ผมเลือกไม่เป็นเลยให้ป้าเค้าช่วยเลือกไว้ให้และนึ่งไว้ให้เลย
โลละ 250 ถูกมากๆ ไซส์ขนาดนี้ตลาดแถวบ้านผมโลละ 400 อัพ
จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน ดูกระชังปลา แล้วค่อยกลับมาเก็บของออกเดินทาง
ขากลับก็แวะเที่ยว อช.น้ำตกพลิ้วอีกนิด ไม่ได้ไปนานมาแล้ว เปลี่ยนไปแยะเลย
คนเยอะมาก แป๊บเดียวกลับเลย
ก็จบการนำเสนอเพียงเท่านี้ละครับ
เห็นว่าชาวบ้านเค้าทำมาหากินกันตามวิถีชุมชนแท้แบบนี้ก็อยากสนับสนุน
ที่สำคัญ เค้าไม่ได้ทำเป็นธุรกิจอะไร เป็นเพียงการสร้างวงจรอาชีพให้ชุมชนเข้มแข็ง
ราคาและการบริการก็นับว่าดีและถูกมาก
ใครสนใจก็สอบถามเพิ่มเติมมาได้ครับยินดีแนะนำ
หรือจะโทร.ไปติดต่อ-สอบถามและจองกับเจ้าบ้านคือป้าอ่อนได้เลย
โทร. ขอบคุณที่ติดตามครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น