งานคอมฯ หมายถึงงานอีเวนท์ใหญ่ๆที่จัดขึ้นเพื่อขายคอมฯและอุปกรณ์ไอทีในปีหลังๆมานี่นอกจากคอมฯ+Accessories แล้ว ยังมีอุปกรณ์บางอย่างที่มาแรงมาก
อันดับต้นๆเลยที่ทำท่าว่ายอดขายจะแซงคอมฯเดสก์ทอปก็คือกล้องดิจิตอล
ใน 3 ปีที่ผ่านมาคือ 2005 จนถึงปัจจุบัน 2008 กล้องดิจิตอล พัฒนาเร็วมาก
ออกรุ่นใหม่กันแบบรายเดือนเลย บางทีเดือนเดียวมีรุ่นใหม่ออกมาชนกัน 2-3 ยี่ห้อ
และราคาก็ถูกลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งราคาลงมาเท่าๆกับกล้องฟิล์มในยุคสุดท้ายเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
กล้อง ดิจิตอลคอมแพค ตอนนี้ราคาเริ่มที่ประมาณ 3กว่า อันนี้พูดถึงระดับบิ๊กเนม อย่าง Canon ,Sony เลยนะ คุณภาพระดับ 5-6 ล้านพิกเซล
ในขณะที่กล้อง DSLR ในระดับ entry เปิดตัวกันแถวหมื่นปลายๆจนถึงสองหมื่นต้นๆ
นี่มันราคากล้องฟิล์มยุค 3-4 ปีที่แล้วชัดๆเลย
นอกจากตัวกล้องจะมีราคาที่ต้องถือว่าถูกลง (เมื่อเทียบกับอัตรเงินเฟ้อและค่าครองชีพ)แล้ว
ยังไม่ต้องมากังวลเรื่องเปลืองค่าฟิล์มอีกต่อไป Memory Card ขนาด 1-2 GB เพียงพอสำหรับการท่องเที่ยว 2-3วัน
เมื่อใช้กับกล้องคอมแพคระดับ 5-6 ล้านพิกเซล
เก็บตังค์ไว้เป็นค่าอัดรูปอย่างเดียวเลย ว่างั้นเถอะ
รูปที่จะสั่งอัดก็เลือกเอาแต่ที่สวยๆก่อนได้อีก ทำให้ลดการอัดภาพทิ้งๆขว้างๆไปได้เยอะเลย
สมัยก่อนเป็นฟิล์ม ถ้าอยากเลือกรูปก็ต้องส่งล้างฟิล์มก่อนแล้วมานั่งส่องฟิล์มเดาเอาว่าชัดมั๊ยสวยมั๊ย
ถ้าอยากได้รูปเร็วก็ต้องบอกที่ร้านเลยว่า อัดแต่รูปที่ชัดมาหมดเลย(บางทีชัด แต่ไม่สวยก็ต้องเอามา)
ธุรกิจฟิล์มจึงถูกตัดตอนออกไปจากวงจรของการถ่ายภาพระดับทั่วไปแบบเกือบจะ 100% กันเลยในวันนี้
พวกยักษ์ใหญ่ขายฟิล์มอย่างโกดักก็ปรับแนวมาเป็นสถาบันวิจัยพัฒนาตัว Image Sensor จนเป็นเจ้าพ่อ CCD ระดับไฮเอนด์กันไป
ส่วนฟูจิก็เอาดีทางตลาดดิจิตอล คอนซูมเมอร์จนรุ่งเรืองไปเหมือนกัน
ที่หายหน้าไปเลยก็จะเป็นค่ายฟิล์มเล็กๆอย่าง โคนิก้า ที่ปิดแบรนด์ไปเลย แม้แต่กล้องก็ขายไปให้ Minolta
และ Minolta ก็ขายให้ SONY ไปแล้ว ปิดตำนานไปทั้ง 2 ยี่ห้อในยุคดิจิตอลครองเมืองนี้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น